เคล็ดลับ การหา Keyword เว็บนอก สำหรับทำ Amazon Affiliate ให้ติดอันดับ Google ง่าย

วิธีเลือก Keyword สำหรับทำ Amazon Affiliate ให้ติดอันดับ Google.com ง่าย

เราจะหา Keyword อะไร สำหรับทำ Amazon Affiliate ที่มี Traffic มีคนเข้าเว็บด้วย และทำอันดับได้ง่าย บางคำ สามารถทำอันดับได้เลยภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ โดยไม่ต้องมี Backlink

ต่อไปนี้ เป็นวิธีการที่ผมใช้ครับ 

ทำไมต้องเป็น Amazon Affiliate?

ก่อนอื่น ผมขอตอบคำถามนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากหลายคนอาจจะยังสงสัย

ที่ผมเลือกทำ Affiliate ในต่างประเทศ เพราะว่า ถ้าเราทำให้ติดอันดับ หรือพูดง่ายๆ ว่า ติดลมบน มีคนเข้าเว็บพอประมาณแล้ว จะมียอดสั่งซื้อ เกิดเป็นค่าคอมมิชชั่น ตามมา สำหรับประสบการณ์ของผม จะสูงกว่าที่ได้รับจาก Affiliate ไทย

เพราะอะไร? เพราะว่า Amazon.com เป็นตลาด Ecommerce ที่ใหญ่มาก ในปัจจุบัน มีผู้ใช้มากกว่า 300 ล้านคน ในปี 2019 มีผู้ใช้ราวๆ 150.6 ล้าน (ข้อมูลจาก https://www.oberlo.com/blog/amazon-statistics

สำหรับประเทศอเมริกา แน่นอนว่า ผู้คนที่นั่น จะคุ้นเคยกับการซื้อของออนไลน์กว่าคนไทย หลายเท่าตัว 

ซึ่งคนไทยเอง เริ่มจะซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เมื่อ Lazada นำแนวคิด เก็บเงินปลายทางมาใช้ ซึ่งก็จะตรงกับนิสัยคนไทย คือถ้าสินค้ายังไม่ถึงมือก่อน ก็ไม่อยากจะจ่ายเงินนั่นเอง 

แต่ความยากของการทำ Amazon Affiliate มีหลายอย่างเลยครับ 

เรื่องที่ 1 เห็นจะเป็นเรื่องภาษา แต่เรามีตัวช่วยหลากหลายเครื่องมือ ในปัจจุบัน 

และเรื่องที่ 2 คือการทำเว็บไซต์ 

และหนึ่งในการทำเว็บไซต์ ก็คือการเขียนบทความ และก่อนจะเขียนบทความได้ ก็ต้องหาคีย์เวิร์ด (Keyword) หรือ คำค้น ที่ผู้คนนิยมค้นบน google.com ให้ได้ก่อน ว่า สินค้าที่เราจะหยิบมารีวิว เขานิยมค้นอะไร ดังนั้น การเลือก Keyword ที่ถูกต้อง มีโอกาสทำอันดับได้ง่าย จึงเป็นหัวใจ อันดับต้นๆ ที่จะทำให้เราสำเร็จ กับการทำ Affiliate

สุดยอดเครื่องมือฟรี ในหา Keyword ภาษาอังกฤษ ติดอันดับง่าย

ผมจะอิงกับประสบการณ์ที่ผมใช้เป็นหลักนะครับ เพราะว่า ปัจุจุบัน มีเครื่องมือในการหาเยอะแยะไปหมด ซึ่งแบบแรกที่ผมใช้สำหรับหา Keyword ไทย ผมใช้ Ubersuggest (ดูวิธีหา keyword ทองคำด้วย Ubersuggest)

แต่สำหรับภาษาอังกฤษ ผมจะใช้ https://www.semrush.com/ เพราะว่า?

  • สามารถหาข้อมูลได้ลึกมาก ทั้ง KD (Keyword Difficulty) ซึ่งจะบอก ความยากในการทำอันดับ ยิ่งสูง ยิ่งทำได้ยาก
  • มีแจ้งจำนวนการค้นหาต่อเดือนด้วย ว่ามีการค้นเท่าไหร่ (ซึ่งหลายคนก็ถามผมว่า แล้วเขาฐานข้อมูลมาจากไหน อันนี้ผมก็ยังตอบไม่ได้ครับ ถ้าใครรู้ รบกวน comment หน่อยแล้วกันนะครับ)
  • เราสามารถค้นได้ทั้งรูปแบบ Phrase คือ คำยาวๆ หรือ แบบ Keyword ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง Keyword ที่เป็นคำถาม ด้วย ซึ่งล้วนแต่เป็น Long-tailed Keywords ซึ่งทำอันดับได้ง่ายกว่า Keyword กว้างๆ

เจอวิธีนี้ได้อย่างไร?

ตอนที่ผมทำเว็บอยู่นั้น เขียนมาประมาณ 1 ปี รู้สึกตันๆ ครับ คิดไม่ออกว่า จะตั้งชื่อเรื่อง และจะหา Keyword ที่น่าสนใจได้อย่างไร จนกระทั่งผมได้ดูคลิปด้านล่าง ทำให้ต่อยอดได้อีกเยอะเลย ขอบคุณ K. Spencer Haws มา ที่นี้ด้วยครับ

มีวิธีการใช้ Semrush อย่างไร มาดูกัน

เริ่มจากสมัครสมาชิก Semrush ก่อน (ฟรี) ครับ จากนั้น ให้เข้าไปที่ SEO dashboard แล้วเลือก Keyword Magic Tool จากนั้น ใส่ Keyword ที่ต้องการหาลงไป (แนะนำใส่สัก 2 คำครับ) เช่น ผมจะรีวิว ชิงช้าไม้แขวน หรือ tree swing

semrush keyword magic tool เลือกคีย์เวิร์ด
https://semrush.sjv.io/kjzeJL

จะขึ้นข้อความประมาณนี้ครับ…

ด้านบน

  • ตรง Question คือ คำค้นในลักษณะคำถามครับ ซึ่งหลายๆ คน ก็อาจจะค้นด้วยคำถามไปเลย ผมจะใช้ Keyword ที่ได้จาก Question ไปเขียนสาระความรู้ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า 
  • ส่วน Broad Match กับ Phrase Match จะคล้ายๆ กันมาก เช่น เราได้คำดีๆ มาเขียนรีวิว อย่างคำว่า tree swings for adults ก็ทำให้เราเจาะกลุ่มผู้ใหญ่ไปเลย  หรือจะใช้คำว่า tree house swing set ก็จะเป็นการหาสินค้าแนวๆ ชิงช้าที่นำมาแขวนกับบ้าน เป็นต้น ช่วยทำให้เรามีไอเดียดีๆ ในการขายสินค้าได้เยอะเลย
  • ส่วน Exact Match จะเป็นหา Keyword สองตัวตรงๆ ที่อยู่ติดกัน แล้วอาจจะมีคำอื่นๆ มาต่อท้าย หน้าหลัง ลองค้นแล้ว จะทำให้มีไอเดีย ทำบทความได้อีกเยอะครับ เช่น เราได้ wooden tree swing ซึ่งเรานำไปต่อยอด ในการีวิวสินค้า เกี่ยวกับชิงช้าที่ทำจากไม้ได้ เป็นต้น
การหา exact keyword

ข้อจำกัดมีครับ มีตรงที่เขาให้เราใช้ฟรี แต่ว่า ใช้ได้ไม่มาก พอจะไล่ดูเรื่อยๆ ก็ขึ้นข้อความให้เราทดลองสมัครใช้บริการฟรี 7 วัน แบบนี้ครับ

ผมเลยลองสมัครใช้บริการฟรี 7 วันเต็ม แต่ตอนสมัคร ระบบให้เรากรอกบัตรเครดิตไว้เลยนะครับ

ผมได้ทดลองหาคีย์เวิร์ดเต็มที่เลย ทุกเว็บที่อยากจะทำ เมื่อได้ Keyword สำคัญๆ แล้ว ก็สั่ง export ออกมา ในรูปแบบ CSV เพื่อเก็บไว้ใช้ครับ เรียกได้ว่า เอาจนคุ้มแล้ว จึงได้ทำการยกเลิกสมาชิก แล้วระบบเขาก็จะส่งข้อความยืนยันว่า เราได้ยกเลิกสมาชิกแล้ว

ผลลัพธ์ที่ได้ บอกได้คำเดียว ว่าเยี่ยมมากๆ ครับ เว็บผมติดอันดับจาก Keyword ชุดนี้จำนวนหลายคำมาก

ถ้าใครพอมีทุนหน่อย ก็ต่อค่าบริการไปเรื่อยๆ ก็ได้ครับ ด้านล่าง เป็นค่าบริการรายเดือนครับ 

เคล็ดลับ ในการเลือก Keyword ให้ติด Google เร็ว

1# เลือก KD ให้น้อยกว่า 60

สำหรับผมเอง ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ กับ Volume หรือปริมาณการค้นหาครับ ถ้ามี track ติดมาที่ตรงนี้ แสดงว่า น่าจะมีคนค้นหา

ผมเคยทำอันดับจาก Keyword ที่ไม่แสดงการค้นหาเลย แต่ว่า พอติดอันดับ TOP 10 เวลาที่ค้นหาจาก Google ก็มีคนคลิกเข้ามา เป็นจำนวนมากอยู่ดี 

และหากเราติดคำใดคำหนึ่งแล้ว จะทำให้เราติดอันดับคำใกล้เคียงกันด้วยครับ หลายคำเลย ซึ่งเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก!

การจะหาคีย์เวิร์ดดีๆ มีการค้นหามากๆ เราก็ย่อมมีคู่แข่งมากเช่นเดียวกัน ซึ่งผมจะดูจาก Keyword diffifulty (KD) ประกอบครับ

จากประสบการณ์ หาก KD น้อยกว่า 60 ลงมา จะทำอันดับได้ง่ายกว่า และยิ่งเป็น 0 เลย ยิ่งง่ายครับ

2# เลือก Keyword ที่ค่า DA ของคู่แข่งใน TOP 10 น้อยๆ ต่ำกว่า 10 ยิ่งดี

ค่า DA คือค่า Domain Authority ของเว็บไซต์ครับ ซึ่งค่าย Moz เป็นผู้จัดทำขึ้น เราทำโดยการติดตั้ง Mozbar addon ที่ Chrome (ดูวิธีการติดตั้ง Moz ฟรี)

พอเราได้ Keyword ที่เราสนใจแล้ว เช่น ได้คำว่า “20 ft tree swing” ให้ไปดูต่ออีกหน่อยครับ โดยค้นคำนั้นๆ ที่ Google.com ผลลัพธ์ที่ได้ จะได้ประมาณนี้ครับ

ได้คีย์เวิร์ดที่ดีที่สุด ติดอันดับง่ายที่สุด

จากเครื่องมือฟรี ของ Mozbar เราได้ ค่า DA ที่ต่ำ 10 ถึง 2 เว็บที่ติดหน้าแรกใน Google

ยิ่งกว่านั้น เราดูที่คำว่า Links จะเห็นเลข 0

แสดงว่า คำนี้ติดอันดับโดยธรรมชาติเลยครับ ไม่ต้องมี Backlink ก็ติดอันดับได้

จะเห็นว่า เครื่องมือนี้ ช่วยเราได้เยอะเลยครับ

สรุปการหาคีย์เวิร์ด เว็บนอก

เว็บภาษาอังกฤษ เป็นเว็บที่เรียกว่า ยากหน่อยครับ ยากกว่าทำเว็บไทย หลายเท่าตัว การจะเอาชนะคู่แข่งได้ งานแรกของเราคือต้องหา Keyword ที่มีคู่แข่งน้อย และมีโอกาสทำอันดับได้ง่าย

ซึ่งวิธีการที่ผมใช้ส่วนตัวเลย คือ 1) หา Keyword จาก Semrush ก่อน โดยเลือกเอาคำที่มีค่า KD ต่ำๆ จากนั้น 2) ไปค้นจาก Google แล้วติดตั้ง Mozbar ไว้ แล้วเลือกคำที่คู่แข่งมีค่า DA ต่ำๆ (ปกติผมจะต่ำกว่า 10)

ผมใช้การผสมผสานทั้ง 2 อย่าง ช่วยให้ผมทำบทความได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ

เพื่อนๆ ลองเอาไปรับใช้บ้างนะครับ ผลเป็นอย่างไรบ้าง มาเล่าให้กันฟังครับ…

Related Posts