อยากขายได้ ต้องมีบทความดี ถูกหลัก SEO จะทำให้ธุรกิจคุณมีคนเข้าเว็บเพิ่มขึ้น ยอดขายพุ่ง รับเขียนบทความลงเว็บ เขียนบทความ SEO ลง Blog รีวิวสินค้า และใช้ลง Facebook เขียนดี รับประกันความพอพอใจ
หากสนใจให้เราช่วยเขียนบทความ ติดต่อได้ที่ Line ID: @tfind หรือ FB Chat ด้านล่าง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ปัญหาของคนมีเว็บไซต์ส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้น จำนวนผู้เข้าชมเว็บน้อย ลูกค้าน้อย ทำให้ยอดขายไม่เยอะ แบรนด์ไม่เป็นที่รู้จัก ยุคนี้สมัยนี้ใครๆ ก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้ง่ายๆ เว็บไซต์คือสื่อที่นำเสนอข้อมูลหลากหลาย ตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น เว็บไซต์ออนไลน์ขายสินค้าหรือบริการ เว็บไซต์ขายคอร์ส เว็บไซต์นำเสนอบทความ ข่าวสาร เว็บไซต์ธุรกิจหรือการตลาด เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์แบรนด์ เว็บไซต์ส่วนตัว ฯลฯ การสร้างเว็บไซต์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากกว่าคือจะทำยังไงให้เว็บไซต์มีจำนวนคนเข้ามาชมเยอะๆ เป็นที่สนใจ สร้างรายได้ให้กับเจ้าของเว็บแบบยั่งยืน

สาเหตุที่ทำให้คนเข้าเว็บน้อย
เนื้อหาน้อย
เนื้อหาในเว็บไซต์น้อยคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีจำนวนผู้เข้าชมน้อย ถึงแม้ว่าคุณจะตกแต่งหน้าตาเว็บไซต์ให้สวยงามหรือออกมาดูดีมากแค่ไหน แต่ถ้าเนื้อหาในเว็บน้อยเกินไป ก็ไม่ช่วยเพิ่มจำนวน Traffic หรือจำนวนผู้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณได้ แม้ว่าคุณจะสามารถแชร์ลิงก์ไปยัง Facebook, Twitter, Line หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ แต่ก็ไม่สามารถดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์จำนวนมากในระยะยาวได้อยู่ดี
ยอด Traffic ส่วนใหญ่มาจากการค้นหาผ่าน Google ผู้ให้บริการค้นหาข้อมูลและ Google คือเจ้าพ่อแห่ง Information สิ่งที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกเลือกแสดงผลในหน้าแรกของการค้นหา ก็คือ เว็บไซต์ของคุณต้องมีข้อมูลแน่น หรือมีเนื้อหามากพอ เพื่อให้ Google นำเสนอเว็บไซต์ของคุณสู่สายตาผู้ค้นหาได้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเนื้อหาน้อย ส่งผลให้จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์น้อยตามไปด้วย
คอนเทนต์ไม่น่าสนใจ
เว็บไซต์ที่อัดแน่นไปด้วยบทความต่างๆ มากมาย มีเนื้อหาเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ทำไมเว็บไซต์ยังมีจำนวนผู้เข้าชมน้อย แม้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะเต็มไปด้วยเนื้อหาแต่ถ้าคอนเทนต์ไม่น่าสนใจ ไม่มีคุณภาพ ก็เปล่าประโยชน์ คอนเทนต์ต้องสร้างสรรค์ ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ต่อผู้เข้าชม บางครั้งคอนเทนต์ที่โดนใจอาจเกิดการแชร์ต่อไปเรื่อยๆ ส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น
โดยเฉพาะเว็บไซต์ขายสินค้าหรือบริการต้องให้ความสำคัญกับการทำ Content Marketing ซึ่งแตกต่างไปจากการตลาดในยุคเดิมๆ ที่มุ่งเน้นการขายมากเกินไปทำให้ผู้บริโภครู้สึกเบื่อ ไม่น่าสนใจ Content Marketing ที่ดีต้องให้ข้อมูล ให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ลูกค้า ข้อมูลต้องมีประโยชน์กับลูกค้าหรือตรงกับความสนใจของลูกค้าในกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งถ้าคุณไม่ถนัดด้านเขียนคอนเทนต์ แม้ว่าจะเข้าใจคอนเซปต์ แต่ก็ไม่สามารถเรียบเรียงเป็นตัวอักษรได้ดี อย่างไรก็ตาม คุณสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือนักเขียนบทความเก่งๆ มาช่วยได้ เพื่อให้การสื่อสารดีขึ้นและน่าสนใจมากขึ้น
ไม่ถูกหลัก SEO
ข้อนี้สำคัญมากๆ ถือเป็นหัวใจหลักของเว็บไซต์เลยก็ว่าได้ บทความ SEO จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมให้กับเว็บไซต์ของคุณ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อโฆษณาเพื่อโปรโมท แถมยังได้ยอด Traffic เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวด้วย บทความ SEO คือ บทความที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อให้สอดคล้องกับ Search Engine Algorithm ทำให้ Search Engine เข้าใจง่าย ส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดหน้าแรกของการค้นหา
บทความที่ถูกหลัก SEO ไม่ใช่แค่การยัดเยียด Keyword เยอะๆ ลงไปในบทความ แต่ต้องใส่คีย์เวิร์ดในบทความอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด เหมาะสมกับเนื้อหาสอดคล้องหรือไปในทิศทางเดียวกัน ทำไมบทความ SEO ต้องจ้างนักเขียนมืออาชีพ หรือนักเขียนเก่งๆ ที่มีประสบการณ์โดยตรงเพราะนักการตลาด อาจรู้เรื่อง SEO ดีแต่อาจไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดี เขียนออกมาได้ลงตัวและเป็นธรรมชาติเหมือนนักเขียนมืออาชีพ
เทคนิคการเขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับบน Google
1. บทความต้องมี Keyword
ทุกๆ บทความบนเว็บไซต์ต้องมี Keyword สำคัญหรือวลีสำคัญในเนื้อหา โดย Keyword ก็คือคำค้นหายอดฮิต ที่ผู้คนให้ความสนใจ ซึ่งคุณต้องหา Keyword เพื่อนำทางผู้ค้นหามายังเว็บไซต์ของคุณให้ได้ เช่น เว็บไซต์ของคุณขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก Keyword ควรเป็นคำไหน? ถ้าในมุมมองของลูกค้า ลองจินตนาการดูว่า เมื่อพวกเขาต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก คำที่ผู้คนมักค้นหาก็คงหนีไม่พ้น “วิธีลดน้ำหนัก” ดังนั้น Keyword ที่ควรมีในบทความก็คือคำว่า วิธีลดน้ำหนัก นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีโปรแกรม Keyword Research Tools เจ๋งๆ มากมาย เช่น Ubersuggest , Keysearch เป็นต้น
2.ใส่ Keyword เพื่อให้การค้นหาง่ายขึ้น
เมื่อรู้ Keyword แล้ว ต่อมาก็ต้องเรียนรู้เทคนิคการใส่ Keyword ในบทความ เพื่อให้ Search เจอง่าย Google จะให้ความสำคัญของเนื้อหาแต่ละส่วนไม่เท่ากัน สำหรับตำแหน่งที่ควรใส่ Keyword มี 5 จุดหลักๆ ได้แก่ ชื่อบทความ (Title), คำบรรยาย (Description), ชื่อลิงก์บทความ (URL), ชื่อภาพและ Alt Text ของภาพ, หัวข้อต่างๆ (Headings) หลักการเขียนบทความ SEO อย่างที่บอกว่าใครๆ ก็รู้ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถเขียนบทความ SEO ออกมาได้ดี ถ่ายทอดเนื้อหาที่ถูกต้องออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้น อาจต้องพึ่งพานักเขียนมืออาชีพ
3.การกระจายตัวของ Keyword ที่เป็นธรรมชาติ
สาเหตุที่ไม่ควรยัดเยียด Keyword ลงไปในบทความมากเกินไป นั่นก็เพราะ Google อาจมองว่าเราพยายามมากไป ดูไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้บทความไม่น่าสนใจ ซึ่งการกระจายตัวของ Keyword ที่เป็นธรรมชาติ คำแนะนำส่วนใหญ่บอกว่า Keyword Density หรือสัดส่วนคีย์เวิร์ดเทียบกับปริมาณ Text ทั้งหมดของบทความ ไม่ควรเกิน 2.5%
4.จำนวนคำที่เหมาะสม
คำถามที่ใครหลายๆ คนสงสัยว่า Google มีเกณฑ์อะไร ใช้วัดว่าบทความไหนมีคุณภาพมากที่สุด นอกจากบทความที่ต้องมี Keyword สำคัญแล้ว จริงๆ ยังมีหลายปัจจัยมากๆ แต่ปัจจัยพื้นฐานบทความที่เว็บไซต์ควรมี ได้แก่ ความยาวของบทความ ควรเริ่มต้นด้วยการเขียนบทความ 500 คำขึ้นไป ในขณะเดียวกันบทความต้องมีความสดใหม่ด้วย
5.ลงคอนเทนต์ให้สม่ำเสมอ
ทำบทความ SEO ให้ติดหน้าแรก อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเขียนคอนเทนต์ที่สม่ำเสมอด้วย เพราะการลงคอนเทนต์ที่สม่ำเสมอจะทำให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณมีการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เว็บไซต์ที่เติบโตเรื่อยๆ สาเหตุมาจากมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ต่อเนื่องสม่ำเสมอ ถ้าไม่มีคอนเทนต์ใหม่ๆ แน่นอนว่าก็คงไม่มีใครอยากเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณหรอก จริงไหม
PuyiieAcademy.com รับเขียนบทความอะไรบ้าง?
- บทความทั่วไป เช่น สุขภาพ ความงาม ท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ จัดอันดับ ฯลฯ
- บทความด้านไอที เช่น คอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชัน สมาทโฟน ฯลฯ
- บทความข่าวสาร เช่น ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง หรือวิเคราะห์ข่าว ฯลฯ
- บทความการตลาด เช่น การเงิน การลงทุน หุ้น ฯลฯ
- บทความธรรมะ เช่น ข้อคิดดีๆ ธรรมะประจำวัน คติเตือนใจ ฯลฯ
- บทความรีวิวสินค้าหรือบริการ เช่น รีวิวสกินแคร์ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ฯลฯ
- บทความโพสลง Facebook หรือเขียนลง Blog และสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ
- บทความภาษาอังกฤษ Assignment Report, Term Paper
- บทความอื่นๆ
หากลูกค้าไม่พอใจผลงานสามารถแสดงความคิดเห็น ขอให้แก้ไข ปรับเปลี่ยนบทความได้ หรือต้องการขอคืนเงิน เรายินดีคืนเงินให้ 100% และสำหรับลูกค้าท่านใด ที่ต้องการบทความด่วนหรือต้องการบทความ 500 คำขึ้นไป ทางเราก็มีร้านค้าบทความให้ลูกค้าเลือกหยิบใส่ตะกร้าได้เลย การันตีส่งด่วนภายใน 1-2 วัน
อัตราค่าบริการ (Pricing)
ความยาว | ราคา | เวลาส่งงาน | เหมาะสำหรับ |
150 คำ | 100 บาท | 1-2 วัน | ลงใน Facebook, Pinterest, โฆษณา |
250 คำ | 150 บาท | 1-2 วัน | ลงใน Facebook/ โฆษณาสั้นๆ |
300 คำ | 200 บาท | 1-2 วัน | ลงใน Facebook/ บทความใน Blog |
500 คำ | 350 บาท | 1-2 วัน | ลงใน Facebook/ บทความในเว็บ |
700 คำ | 500 บาท | 2-3 วัน | บทความในเว็บ |
1000 คำ | 700 บาท | 2-3 วัน | บทความลงในเว็บ |
1200 คำ | 850 บาท | 2-3 วัน | บทความในเว็บ |
1500 คำ | 950 บาท | 3-4 วัน | บทความในเว็บ |
2000 คำ | 1200 บาท | 3-4 วัน | บทความในเว็บ |
PuyiieAcademy.com เว็บไซต์ที่ให้บริการเขียนบทความทุกประเภทตามใจลูกค้า ต้องการบทความแบบไหน หรือบทความ SEO ก็สามารถใช้บริการเราได้

หากสนใจให้เราช่วยเขียนบทความ ติดต่อได้ที่ Line ID: @tfind หรือ FB Chat ด้านล่าง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เราพร้อมสร้างสรรค์บทความที่สดใหม่ 100% และยินดีคืนเงินให้ลูกค้า หากลูกค้าตรวจพบการคัดลอกผลงานหรือในกรณีที่ลูกค้าไม่พอใจผลงาน เราช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกการค้นหา สร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อโฆษณาเพื่อโปรโมทเว็บไซต์เพราะเป็นแค่การเพิ่ม Traffic ในระยะสั้น แต่บทความที่ดี มีคุณภาพ ถูกต้องการหลัก SEO จะทำให้เว็บไซต์ของคุณแสดงผลอันดับต้นๆ ของการค้นหาและสามารถ เพิ่ม Traffic ให้เว็บไซต์ได้ในระยะยาว
ทำไมต้องเป็นเราเขียนให้?
เราอัพเดท ข่าวสารการปรับเปลี่ยน Algarithm ใหม่ๆ ของ google อยู่เสมอ ทำให้เรารักษามาตรฐานในการทำบทความเพื่อทำอันดับบน Google ได้ตลอดระยะเวลา 10 ปี
หากเข้าใจหลัก SEO การทำบทความให้แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย คุณก็มีโอกาสที่จะทำอันดับเหนือคู่แข่งได้
เราอยู่เบื้องหลัง MiniPriza.com เว็บรีวิว สินค้าจาก Lazada ที่สร้างค่าคอมมิชชั่นได้สูงถึง 30-60k/ เดือน เป็นระบบง่ายๆ แค่เอาสินค้าจาก Lazada มารีวิว

เราคือผู้อยู่เบื้องหลังในการทำบทความ ให้กับ Blog ง่ายๆ เช่น เว็บไซต์ https://minicoffeemachine.com/, https://mini-aircompressor.com/, และเว็บบล๊อก https://minicutting.com/ รวมถึงเว็บขายอสังหาริมทรัพย์ ขายที่ดินเปล่า ระยอง อย่างเว็บ ขายที่ดินนิคมพัฒนา.com
ซึ่งหลังจากลงบทความได้เพียง 3 เดือน ก็มียอดออเดอร์จาก Lazada สูงถึง 1600 ออเดอร์

เราคือผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้เขียนบทความให้กับบริษัท และเว็บไซต์ต่างๆ เช่น
เวลาค้นจาก Google ด้วยคำว่า “เม็ดเงินแท้” จะเจอเว็บที่เราทำให้กำลัง Rank อันดับ 2

ค้นจากคำว่า “รับจัดฟอร์แมต” เราเขียนบทความติด อันดับ 1 และ 3

ค้นจากคำว่า “รับจัดอาร์ตเวิร์ก” เราติดอันดับ 1 และ 2

และเราคือผู้อยู่เบื้องหลังเว็บรีวิวสินค้า Amazon Affiliate ที่สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 3,901,603.15 Thai Baht หรือ $115,735.08 จากเว็บ https://finestarearugs.com/ เพียงเว็บเดียว ตั้งแต่ Jan – Nov 2021

ดังนั้น เราคือตัวจริง ในการเขียนบทความลงเว็บ สำหรับ SEO ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ
จึงมั่นใจได้ว่า หากคุณเลือกให้เราเป็นผู้ดูแลเรื่องบทความบนเว็บไซต์ เรา คือ “มืออาชีพ” ด้านนี้โดยเฉพาะ
*** และกลยุทธ์ที่เราทำ เราไม่ได้จ้างทำ SEO กับบริษัที่ไหนเลย และเราก็ไม่รับทำ SEO ด้วยครับ
เราอาศัยการทำอันดับจากบทความอย่างเดียว ให้ติดอันดับ Google ตามธรรมชาติ
เราไม่เคยยิงแอด อะไรทั้งสิ้น
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามเราได้ที่ Chat ได้เลยนะครับ
3 เคล็ดลัดสู่ความสำเร็จ ที่คนทำออนไลน์ต้องรู้

[Secret#1] 12 เคล็ดลับ เขียนบทความ ให้หน้าเว็บ ติด Top 10 Google

หลายคนเห็นหัวเรื่องแล้ว อาจจะงง เอ๊ะ?? เขียน บทความหน้าเว็บ ทำให้ติดหน้าแรก Google ได้ด้วยหรอ? คำตอบคือ จริงครับ มีส่วนเกือบ 100% เพราะ Content is King บทความดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
เราเอาเรื่องนี้มาแนะนำ เพราะว่า หลายปีที่ผ่านมา เราทำอันดับด้วยการเขียนบทความทิ้งไว้อย่างเดียวเลย เขียนทิ้งไว้ ไม่ต้องทำ Backlink อะไรทั้งสิ้น แล้วเว็บไซต์ที่เราทำ ก็ยังทำอันดับต้นๆ ได้อยู่ แม้ว่า Google จะมีการปรับ Algorithm กี่ครั้งก็ตาม
เพื่อนๆ ลงค้นคำว่า “แหถักมือ” ก็ได้ครับ จะเห็นเว็บที่เราทำบทความหน้าเดียวทิ้งไว้ ที่ยังทำอันดับ ทำยอดขายได้เป็นประจำทุกเดือน

เอาล่ะ งั้นเรามาดูเคล็ดลับกันเลยครับ ว่า มีวิธีการเขียนอย่างไร ให้ถูกใจ Google
เทคนิค การเขียนบทความหน้าเว็บ ให้ถูกใจ Google
1. เลือก Keyword ให้ได้ก่อน
หากยังไม่รู้ว่า จะเลือกอย่างไร ให้ดูที่ วิธีการเลือกคีย์เวิร์ดทองคำ ครับ เราได้แนะนำโดยละเอียดเอาไว้แล้ว
สมมติ ในบทความนี้ เราเลือกคำว่า “บทความหน้าเว็บ” เพื่อประกอบคำอธิบายในขั้นตอนต่อไป
2. แทรก Keyword ลงใน slug หรือ url ของบทความ
Slug ก็คือ ลิงค์ของบทความเราครับ เช่น ในหน้าเว็บนี้ เราใช้ ปลั๊กอิน Yoast SEO เข้ามาช่วย เพื่อดูความเหมาะสมในการทำ SEO
ก็จะวาง คำว่า “บทความหน้าเว็บ” ไว้ที่ Slug ตรงๆ เลยตามภาพ

3. ใส่ Keyword ลงในชื่อเรื่อง (Title)
ต่อไปเป็นชื่อเรื่องครับ ต้องสั้น กระชับ และเข้าใจง่าย มีจุดขายอะไร ก็แทรกลงได้เลย และที่สำคัญ ต้องมี Keyword ที่เลือกมา
ตัวอย่างหน้าเว็บนี้นะครับ เราก็ได้แทรกให้ดูเนียนๆ และไม่จำเป็นต้องเขียนติดกันก็ได้
ตรง Title ถือว่า สำคัญที่สุด เพราะเป็น Head1 เป็นจุดที่ Bot ของ Google จะเน้นเป็นพิเศษ

4. ใส่ Keyword ลงใน Description
Description คือคำอธิบายสั้นๆ ครับ ประมาณ 2 บรรทัด เพื่อสรุปรวบยอดว่า หน้าเว็บที่เราเขียน เกี่ยวกับอะไร และ Google จะเอาข้อมูลตรงนี้ ไปแสดงผลที่หน้าค้นหาบน Google
จากตัวอย่างนี้ เราใช้ Yoast SEO พอเลื่อนลงมาล่างๆ จะเห็นช่องให้เราใส่
เราก็ใส่ข้อความลงไปได้เลยครับ แล้วอย่าลืมแทรก Keyword ลงไปด้วย

เราจะชอบเขียนให้ความยาวเลยมาถึงสีเหลืองๆ หน่อย แต่อย่าให้ถึงสีแดงครับ
แม้จะเป็นสีเหลือง แต่เวลาดู Preview ก็ยังแสดงได้เต็ม ได้ใจความ เหมือนในภาพ

5. แทรก Keyword ลงใน ย่อหน้าแรกตรง Introduction
ข้อความ 1-2 บรรทัดแรก ถือว่า สำคัญเหมือนกันครับ และจุดนี้ เราควรแทรก Keyword เข้าไป แล้วทำตัวหนาหรือ ตัวเอง ให้ Bot ของ Google ได้รู้ว่า คำนี้ล่ะ คือ คำที่เราเน้นเป็นพิเศษไว้ด้วย

6. แทรก Keyword ลงใน Heading 2 (1-2 ครั้ง)
ตรง ชื่อเรื่อง เราถือเป็น Head1 ส่วนหัวข้อย่อยรองลงๆ มา คือ Head 2, Head 3, Head 4 ไปเรื่อยๆ ตามลำดับ

จุดที่เรา Focus ให้สนใจแค่ Head 1-3 ก็พอครับ
และให้แทรก Keyword ลงใน Head 2 ด้วย

ให้ Head 2 คือหัวข้อสำคัญที่ต้องการจะสื่อ แล้วให้ Head 3 คือคำตอบครับ อาจจะเป็นชื่อสินค้า หรือ เคล็ดลับ วิธีการ ฯลฯ แล้วแต่เราจะนำเสนอ
*** สิ่งที่น่าสนใจ เวลาเราไปดูเว็บต่างประเทศ เช่นเว็บไซต์ที่รีวิวสินค้า Amazon เขามักจะใช้โครงสร้างนี้ ในการวางลำดับบทความ และเป็นวิธีการที่ทำอันดับได้ดี
7. แทรก Keyword อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ลงในบทความ ตามเหมาะสม
แม้เราจะพูดถึงคำว่า Keyword บ่อยมาก แต่วิธีการของเราจะไม่พยายามยัดแต่ Keyword เข้าไปที่บทความ
เพราะ Google เองก็ฉลาดมาก นอกจากเขาจะดูคำค้นตรงๆ แล้ว ยังให้ความสำคัญกับคำใกล้เคียงด้วย
แล้วคำใกล้เคียงดูได้จากไหน?
วิธีการของเรา คือ ค้นที่ Google เลยครับ แล้วเลื่อนลงมาดู ล่างสุด เพื่อดูคำค้นที่เกี่ยวข้อง ก็จะเห็นคำใกล้เคียงตามภาพ

แล้วเราก็แทรกคำเหล่านี้ ลงในบทความด้วย
วิธีการนี้จะช่วยให้ Google เข้าใจว่าหน้าเว็บที่เราเขียน เน้นไปที่เรื่องไหน จะช่วยทำอันดับได้ดีในระยะยาว
8. แทรก Keyword อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ลงในคำอธิบายภาพ (Image Alt)
จาก เทคนิคที่ 7 เราได้ Keyword ที่เกี่ยวข้องมาแล้ว ก็เอามาทำเป็นคำอธิบายรูปภาพ ได้ครับ แค่ลงให้เหมาะสม
เช่นเหมือนในภาพ

คลิกที่ภาพที่แทรก จะขึ้นช่องข้อความแทนภาพ ด้านขวา จากนั้นเราก็แทรกคำที่เกี่ยวข้องลงได้เลยครับ
** ทำไมต้องใส่ข้อความลงในภาพ? คำตอบคือ Google ก็ยังเน้นที่ข้อความอยู่ครับ ยังอ่านภาพไม่ได้ เราจึงต้องให้ Google เข้าใจภาพที่เราจะสื่อให้มากที่สุด
9. ลิงค์ไปยังเว็บภายนอกบ้าง สัก 1-2 ที่
เป็นการแสดงความใจกว้าง และเป็นการอ้างอิงแหล่งข้อมูลด้วยครับ ยิ่งเราลิงค์ออกไปยังเว็บที่ใหญ่ๆ ยิ่งเป็นการดี
ปกติ คนทำเว็บ ก็มักแต่จะได้ลิงค์มาที่เว็บตัวเอง
แต่เชื่อหรือไม่? ว่า การลิงค์ไปยังเว็บคนอื่น ก็เพิ่มพลังให้กับเว็บเราได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ Google ให้ความสำคัญในปัจจุบัน ที่ภาษาคนทำเว็บ เขาเรียกกันว่า External Link
ตัวอย่างในเว็บนี้ เราได้ลิงค์ไปยังเว็บอื่นๆ เหมือนดังภาพครับ

อย่างในบทความนี้ เราพูดถึง Yoast SEO จึงได้ลิงค์ไปยังหน้าโหลดปลั๊กอินของเครื่องมือนี้ด้วย
10. ลิงค์ไปเว็บบทความอื่นๆ บนเว็บไซต์เราบ้าง (ถ้ามี)
การลิงค์ไปยังบทความอื่นๆ ในเว็บ เป็น การทำลิงค์ภายใน (Internal Link) เป็นการช่วย Google Bot ให้ใต่ไปยังตามหน้าเว็บเรา
โดยต้องลิงค์ไปยังหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องกันจริงๆ อาจจะลิงค์จากข้อความ เหมือนที่เราทำในภาพก็ได้ครับ

จากในภาพ เราพูดถึง วิธีการเลือก Keyword ทองคำ ซึ่งเคยเขียนบทความนี้ไว้แล้ว จึงไดทำการลิงค์ไปยังหน้านั้น เพื่อเป็นการดันและหนุนให้หน้าเว็บนั้นทำอันดับได้ดีขึ้นอีกด้วย
11. เขียนให้ยาว 750+ คำ
ความยาวของบทความมีผลด้วยหรอ? มีครับ
แม้ว่า Google จะไม่เคยบอกว่า ต้องใช้ความยาวขนาดไหน ถึงจะทำอันดับได้ดี
แต่เหล่า Guru ที่ทำ SEO ทั้งหลาย ต่างก็พากันฟันธงว่า ยิ่งยาว ยิ่งดี บทความยิ่งเขียนลึกยิ่งดี
ในประเทศไทย เริ่มเห็นบทความบางหน้าเว็บ เขียนยาวถึง 3,000 คำ หรือแม้แต่ 5,000 คำ ก็เห็นมาแล้ว
อย่างเว็บนี้ https://stepstraining.co/search/7-steps-write-seo-content เวลาค้น เขาติดคำว่า “บทความ SEO”
เมื่อได้เข้าไปอ่านแล้ว เขาเขียนยาวถึง 3100+ คำ
และแม้จะเขียนยาว แต่เป็นการวางเนื้อหาได้อย่างน่าสนใจ ออกแบบโครงสร้างเว็บได้ดี
เมื่อย้อนกลับมามองที่เว็บเราเอง อาจจะไม่ต้องเขียนยาวขนาดนั้น แต่อย่างน้อย ก็ต้องยาวให้ได้ 750+ คำครับ เป็นการเริ่มต้นที่ดี
หากว่า ต่อไป ได้มีการขายสินค้า และมีรีวิวจากผู้ใช้จริง ค่อยมาเพิ่ม เสริมความยาวให้กับเว็บเราก็ได้
[Secret#2] วิธีเขียนบทความรีวิวสินค้า 2 รูปแบบ [ง่ายๆ] ให้ติด Google
![เขียนบทความรีวิวสินค้า 2 รูปแบบ [ง่ายๆ] ให้ติด Google](https://www.puyiieacademy.com/wp-content/uploads/2021/12/review.jpg)
เขียนบทความรีวิวสินค้า ให้ติดหน้าแรก Google มันง่ายมาก! แค่ใช้ Pattern ง่ายๆ 2 รูปแบบนี้ คุณก็มีโอกาสที่ขายสินค้าได้ โดยไม่ต้องยิงแอด แม้แต่บาทเดียว
อีกหนึ่งวิธีในการหาเงินเข้ากระเป๋า แบบสบายๆ คือ การหาสินค้ามารีวิว เพื่อให้คนคลิก แล้วเข้าไปซื้อสินค้าตาม Platform ต่างๆ เช่น Lazada หรือ Shopee แล้วเรารอรับตังค์ หากมีคนซื้อของจากการแนะนำของเรา วิธีนี้ เรียกว่า Affiliate Marketing
เป็นการทำตลาดออนไลน์อีกรอบแบบหนึ่ง ไม่ต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง แค่เขียนบทความรีวิวสินค้า เมื่อมีคนสนใจ เขาก็แค่คลิกไปยังร้านค้าที่ขาย ให้ลูกค้ากับผู้ขาย ติดต่อกันเอง เมื่อขายได้ เขาก็แบ่งค่าคอมมิชชั่น ให้เรา เรียกได้ว่า สบายๆ….
แม้ไอเดีย จะฟังดูง่าย แต่วิธีการทำนั้น ยากเอาเรื่องเลยครับ
เพราะว่า เราต้องมีคนเข้ามาอ่านบทความเรามากพอ ถึงจะมีคนซื้อสินค้า จะทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
แต่ถ้าตั้งใจทำ อะไรไม่ยาก…
หนึ่งในวิธีที่เราใช้คือ ทำให้หน้าเว็บเราติดอันดับการค้นจาก Google ไปเลย
เราไม่ต้องเสียค่าโฆษณาแม้แต่บาทเดียว
แค่เสียเวลาทำบทความแนะนำ รีวิวสินค้าดีๆ สักวันละ 1 ชั่วโมงก็พอ
ต่อไปนี้ เป็นแบบสำเร็จ ที่ต่างประเทศชอบใช้ และเราก็ชอบใช้ ในการทำอันดับรีวิวสินค้า
สุดยอด แบบสำเร็จ Pattern การเขียนบทความรีวิวสินค้า
1. ความลับอยู่ที่ Head 1, Head 2 และ Head 3
เมื่อ Head 1 คือชื่อเรื่องบทความ (Title) ให้เขียน หรือตั้งชื่อ ให้คนอ่าน ต้องคลิกให้ได้ เช่น
- Top 10 อันดับ…….
- ลดพิเศษกว่า 50%……
- ถกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว….
- ส่งตรงจากโรงงาน….
- ราคาโรงงาน….
- ส่งด่วนภายใน 2 วัน….
- รับประกันสินค้า 100%….
- ฯลฯ
แล้วแต่ไอเดียที่จะพรีเซ็นต์ครับ เอาให้เวลาเขียนแล้ว ลูกค้าหันควับไปเลย
จากนั้นก็เขียน Introduction แนะนำไปเบื้องต้น
จากนั้นให้ใส่ Head 2 ซึ่งก็คล้ายๆ กับ Head 1 ได้เลย แต่ว่า อาจจะปรับเปลี่ยนคำพูดนิดหน่อย แล้วอย่าลืมแทรกคีย์เวิร์ด ที่อยากจะให้ติดเข้าไปด้วย
เช่น
10 อันดับ ปั้มลมไฟฟ้า ราคาส่งจากโรงงาน รับประกันใช้งาน 10+ ปี
จากนั้น ใช้ Head 3 เป็นคำตอบครับ
เราใส่ชื่อสินค้าทีละตัว แล้วใส่ภาพประกอบ เขียนคำอธิบาย เขียนรีวิวสินค้า ให้เหมาะสมน่าอ่าน ได้เลย
แต่ตรงชื่อสินค้า ให้ทำเป็น Head 3
เมื่อไล่ใส่จนครบทั้ง 10 ตัวแล้ว ค่อยทำบทสรุปสั้นๆ
หากยังมองภาพไม่ออก ให้ดูภาพประกอบด้านล่างได้เลยครับ
จากตัวอย่างหน้าเว็บ Eng ที่เราเขียนไว้นะครับ https://finestarearugs.com/best-rugs-for-dogs-that-chew/
ชื่อเรื่อง เราได้ใส่เป็น Head 1

ชื่อรองลงมา เราใส่ เป็น Head 2

แล้วใส่ชื่อสินค้าแต่ละตัวเป็น Head 3

แม้ว่า เราจะใส่ คำอธิบาย (Description) ไว้แล้วก็ตาม แต่เวลา Google นำไปแสดงผล
ก็ชอบที่จะ เอาชื่อสินค้า หรือคำตอบ ที่เราเขียนไว้ใน Head 3 มาแสดงเหมือนในรูปด้านล่าง
ดังนั้น เราก็ควรจะย่อชื่อสินค้า ให้อ่านเข้าใจง่าย ไม่ยาวมาก เพื่อให้คนค้นได้คลิกเข้าไปอ่านต่อ….

หลักการนี้ เราใช้ได้ผลดีในปี 2021-2022 ทั้งเว็บไทยและอังกฤษ
การรีวิวสินค้าในไทย ยิ่งทำอันดับง่ายกว่าในต่างประเทศ
เพื่อนๆ เอาลองไปใช้ดูนะครับ
2. การใส่ภาพสินค้าประกอบ
การแทรกภาพสินค้า จะช่วยให้บทความหรือข้อความที่เราพูดถึง Specs สินค้า ที่น่าเบื่อให้น่าสนใจขึ้นมาได้ดีเลยทีเดียว
และไม่มีกฎตายตัวว่าจะต้องใส่กี่รูป
ส่วนตัวของเรา ยิ่งใส่เยอะ ยิ่งดี
เราต้องมองผ่านมุมของผู้อ่านครับ ว่า มีมุมไหนมั้ย ที่ผู้อ่าน อาจจะอยากรู้เกี่ยวกับสินค้า ยิ่งภาพสวยๆ น่าคลิก ยิ่งน่าเอาลง
*** แต่อย่าลืม ใส่คำอธิบายรูปภาพด้วยนะครับ (เพราะทุกภาพ สามารถติดอันดับการค้นหาภาพ จาก Google ได้หมด)
*** สิ่งหนึ่งที่เราชอบใช้คือ ทำลิงค์ Affiliate จากภาพ ไปยังหน้าร้านค้าโดยตรงเลย เพราะเอาจริงๆ ลูกค้าชอบที่จะคลิกที่ภาพ
เมื่อคลิกไป ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ หน้าที่ของเรา คือทำให้เขาไปยังหน้าร้านค้าให้ได้
ส่วนการจะซื้อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อและผู้ขายแล้ว
*** ภาพด้านล้างมาจากหน้าเว็บนี้ครับ minicutting.com ทีมงานเขียนแนะนำ 10 อันดับ ลูกหมูตัดเหล็ก

จะเห็นว่า ทุกภาพ จะมีการลิงค์ไปยังร้านค้าที่ Lazada เลยโดยตรง
นอกจากนี้ ด้านล่าง ยังมีข้อความชวนคลิกอีกเช่น “ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Lazada คลิก!“
วิธีการนี้จะช่วยให้มีการ convert ทำให้เกิดการคลิก และเพิ่มโอกาสที่เราจะได้ค่าคอมสูงขึ้น
[Secret#3] 9 คำง่าย ๆ ที่ใส่ในชื่อเรื่อง แล้ว จะทำให้คนคลิกทันที [สำหรับลงเว็บไซต์และ Facebook]

ทราบหรือไม่ว่า หากคุณต้องการจะทำโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการเขียน หรือเขียนคอนเทนต์ใด ๆ ก็ตาม “หัวเรื่อง” คือสิ่งสำคัญที่สุดที่ไม่ควรมองข้าม หรือต้องเรียกว่าควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากหัวเรื่องดีและน่าสนใจ น่านอนครับว่าต้องมีการคลิกเข้าชมหรือหยุดเพื่อที่จะอ่านทันที ราวกับต้องมนตร์สะกดอย่างไรอย่างนั้น
ลองคิดภาพตามนะครับว่า สมมติว่าคุณกำลังตามหาร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งเพื่อเติมพลังในมื้อเย็นหลังจากทำงานมาเหนื่อย ๆ จนคุณได้พบกับร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ 2 ร้านด้วยกัน
ร้านที่ 1 มีป้าย และโคมไฟ รวมถึงตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น แม้มองไกล ๆ จากร้อยเมตรก็ทราบได้ทันทีว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ทั้งยังมีป้ายโปรโมชั่นดึงดูดความสนใจตั้งแต่แรกเห็น
ร้านที่ 2 มีเพียงแค่ชื่อป้ายหน้าร้านทีเป็นคำอ่านภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่ได้มีอะไรตกแต่งที่จะบ่งบอกว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเลย
กรณีที่คุณไม่รู้จัก 2 ร้านนี้มาก่อนเลย ไม่รู้ว่ารสชาติของร้านนี้เป็นอย่างไร รู้แค่เพียงว่าเป็นร้านเปิดใหม่เท่านั้น คุณจะเลือกเข้าร้านไหนก่อน? สำหรับเรา แน่นอนครับว่า เราต้องเดินเข้าร้านที่ 1 โดยไม่รีรอเลย เพราะตรงตามจุดประสงค์ของเราที่สุด เพราะรู้ได้ทันทีว่านี่คือร้านอาหารญี่ปุ่น ดังนั้น หัวเรื่อง ก็ไม่ต่างจากตัวอย่างที่เรากล่าวมาข้างต้นครับ ยิ่งตั้งหัวข้อน่าสนใจ ยิ่งรู้สึกอย่างลองแวะอ่านดีเสียหน่อย
บทความนี้เราจึงนำ 9 คำง่าย ๆ ที่เปรียบเสมือนเป็นมนตร์วิเศษ ที่ควรมีในหัวเรื่องด้วย จะมีคำไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย!
9 คำเชิงบวก ง่าย ๆ เอาไว้ใส่ในชื่อเรื่อง แล้วจะทำให้คนคลิกทันที
1. เคล็ดลับ
คำนี้จะให้ความรู้สึกว่า คอนเทนต์นั้น ๆ ต้องมีสาระและให้ประโยชน์อย่างแน่นอน หากอ่านหัวเรื่องดูแล้วเป็นเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ย่อมมีการคลิกเข้าชมอย่างแน่นอน
2. คุณ
โดยปกติแล้ว หากเจอคำว่า “คุณ” เมื่อไหร่ จะให้ความรู้สึกว่า สิ่ง ๆ นั้นต้องส่งผลกระทบกับคุณโดยตรงเป็นแน่ เช่น คุณกำลังต้องการสิ่งเหล่านี้อยู่หรือไม่? คุณกำลังมองหาสิ่งเหล่านี้อยู่หรือไม่? คุณกำลังเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่? เป็นต้น ยิ่งหากเป็นคำถามแล้วนั้น จะทำให้เกิดการอยากหาคำตอบ คำนี้ช่วยได้ครับ
3. เทคนิค
คำนี้จะคล้ายกับคำว่าเคล็ดลับ เพราะหากเป็นเทคนิคดี ๆ ที่เรากำลังต้องการแล้วล่ะก็ ย่อมเกิดการคลิกอ่านอย่างแน่นอน ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านโดยตรงแล้วนั้น จะไปไหนเสีย
4. ทันที
ในเรื่องของช่วงเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญครับ ยิ่งมีคำว่า “ทันที” แล้วนั้น ยิ่งทำให้รู้สึกว่า เราจะได้รับสิ่ง ๆ นั้นในทันทีทันใด เพราะคงไม่มีใครชอบการรอคอยอะไรเป็นเวลานานนั่นเอง
5. น่าทึ่ง
คำนี้จะเน้นย้ำถึงความน่าอัศจรรย์ใจเป็นต้องหยุดแวะดูเสียหน่อย คอนเทนต์นี้มีสิ่งใดน่าสนใจ หรือผู้คนกำลังให้ความสนใจเรื่องนี้อยู่อย่างนั้นหรือ ร้อยทั้งร้อย ใช้ได้ผลแน่นอนครับ
6. ง่าย ๆ
คงไม่มีใครชอบอะไรที่มันยุ่งยาก ซับซ้อนใช่ไหมล่ะครับ ยิ่งเป็นคำว่า ง่าย ๆ แล้วนั้น มันทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ยุ่งยาก ไม่ต้องพิธีรีตองอะไร ง่าย ๆ รวดเร็ว คำแบบนี้ช่วยได้เยอะเลย
7. สุดท้าย
คำนี้เป็นคำที่ทำให้ชะงักได้เป็นอย่างดี เพราะคำว่าสุดท้ายนั้น จะให้ความรู้สึกว่า ไม่ได้แล้ว เราจะพลาดสิ่งนั้นไม่ได้ มันเหลือเพียงชิ้นสุดท้ายแล้วนะ เป็นต้น คำนี้จะใช้ได้ดีสำหรับโปรโมชั่นเลยล่ะครับ
8. ใหม่
หากคุณมีสินค้าใหม่ที่ต้องการนำเสนอ อย่าลืมคำนี้เชียวนะครับ เพราะมันจะกลายเป็นสินค้าธรรมดา ๆ ทั่วไปทันที แต่หากมีคำว่า “ใหม่” เข้ามาแล้วนั้น จะให้ความรู้สึกว่ามีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้น หรือมีสินค้าใหม่ ๆ ที่น่าสนใจหรือไม่ เป็นต้น
9. วิธีลัด
แน่นอนครับ ใคร ๆ ก็ชอบวิธีลัด ที่จะให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้น การใช้คำว่าวิธีลัดจะเหมาะสำหรับคอนเทนต์เกี่ยวกับ How to หรือคอร์สเรียน ฯลฯ เพราะจะให้ความรู้สึกว่า มันง่ายต่อเป้าหมายยิ่งขึ้นนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 9 คำ ง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ ซึ่งแต่ละคำนั้นก็อาจจะใช้ในบริบทที่แตกต่างกันออกไป บางคำเหมาะสำหรับใช้ในการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย บางคำเหมาะสำหรับเชิญชวนร่วมทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง หรือบางคำเหมาะแก่การดึงดูดความสนใจให้แวะอ่านคอนเทนต์ที่น่าสนใจของคุณ เป็นต้น ซึ่งคำที่ได้แนะนำไปนั้น ควรมีในหัวเรื่อง หรือหัวข้อคอนเทนต์ รับประกันว่าต้องคลิกอ่านทันทีอย่างแน่นอน!
ขอขอบคุณที่มาจาก: MR.PETER THE PRODUCER
หากสนใจให้เราช่วยเขียนบทความลงเว็บ บทความ SEO ติดต่อได้ที่ Line ID: @tfind หรือ FB Chat ด้านล่าง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
มีเว็บไซต์ แต่ไม่มีบทความ มีบทความแต่เนื้อหาไม่มีคุณภาพ อยากได้บทความ SEO สดใหม่ พร้อมการนำเสนอคอนเทนต์ที่โดนใจลูกค้า เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บ นำมาสู่การสร้างตัวตนและสร้างรายได้ สร้างยอดขายที่ยั่งยืน อยากได้บทความเจ๋งๆ บทความ SEO ที่เป็นธรรมชาติ แนะนำ PuyiieAcademy.com ได้เลยนะครับ
เรารับจ้างเขียนบทความ เริ่มต้นเพียง 100 บาทเท่านั้น! การันตีบทความดี มีคุณภาพ สดใหม่ ไม่ซ้ำใคร สร้างสรรค์โดยนักเขียนมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์ อยากได้บทความ SEO เราก็จัดให้ได้ รับเขียนบทความ SEO เพื่อโฆษณาเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้นๆ ใน Search Engine ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และเพิ่มยอดขายให้กับคุณ

Puyiie Thawatchai